
ปี 2010 เป็นปีของฟุตบอลโลกบนพื้นแผ่นดินแอฟริกาเป็นครั้งแรก ทำให้ช่วงเวลาทรมานสำหรับคนที่พลีใจและกายให้กับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอย่างผมรู้สึกดีกว่าปีอื่นๆเพราะมีมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษญชาติคั่นกลางเป็นเวลา 1 เดือน โดยแชมป์ก็เป็นที่ทราบกันดีของทุกคนทั้งผู้เสพบอลทุกลมหายใจเข้าออก เสพแบบพาสไทม์ หรือเสพตามกระแส แม้แต่ย่าของผมก็ยังทราบ ว่า ทีมกระทิงดุเสปนเป็นแชมป์ พร้อมกับการแจ้งเกิดของปลาหมึกพอล ที่แย่งซีนมหกรรมฟุตบอลลกครานี้ไปเต็มๆ

หลังจบฟุตบอลโลกก็เป็นระยะเวลาทรมานแบบสั้นๆกับการรอคอยฤดูกาลฟุตบอลที่เฝ้าติดตามมาทั้งชีวิต (ติดตามจริงจังไม่ถึงสิบปี อิอิ) จวบจนวันนี้(8สิงหาคม2553) สัญญานความสุขของผมกำลังจะกลับมาอีกครั้งกับการได้ชมทีมรัก (เชลซี) ลงแข่งรายการกุศล “คอมมิวนิตี้ชิลล์” กับคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อที่สุด ณ เวลาปัจจุบัน “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” สโมสรจากเมืองแมนเชสเตอร์ อดีตแชมป์ลีกสูงสุด 18 สมัยและแชมป์รายการนี้ 17 สมัย ซึ่งจะเตะกันในเวลา 21.00น.(เวลาประเทศไทย)

การแข่งขันฟุตบอลรายการ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ หรือที่รู้จักกันดีในนามเดิมคือ แชริตี้ ชิลด์ เป็นฟุตบอลรายการการกุศลชิงโล่ (Sileld ชิลด์ แปลว่า ถาดหรือโล่ห์) จัดโดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ(FA) ซึ่งเป็นธรรมเนียมคือเตะก่อน 1สัปดาห์ ก่อนศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจะเปิดอย่างเป็นทางการ โดยสิทธิ์ในการแย่งถาดใบนี้คือทีมแชมป์ลีกสูงสุด(พรีเมียร์ลีก) และแชมป์เอฟเอคัพ มาชิงถาดการกุศลใบนี้ แต่เนื่องจากแชมป์ทั้งสองรายการตกเป็นของทีมจากลอนดอน(เชลซี)สิทธิ์จึงเป็นของรองแชมป์ลีกสูงสุด คือ เหล่าอสูรแดง ศิษย์ป๋าเฟอร์กี้ แมนเชสเตอร์ ยูในเต็ดซึ่งได้รองแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
จริงๆแล้วฟุตบอลคู่นี้ในรายการนี้ก็เหมือนเอาหนังม้วนเก่ามาฉายใหม่ เพราะเมื่อฤดูกาลที่แล้วก็เป็นคู่นี้ที่มีสิทธิ์เข้าชิงถาดการกุศลใบนี้และเป็นเชลซีที่เป็นฝ่ายเอาชนะจุดโทษหลังจากเสมอกันในเวลา 2-2 แถม 3 ใน 5 ครั้งหลังสุดก็เป็นคู่นี้ที่ฟาดแข้งกันในรายการนี้ และ 8 ครั้งหลังสุดเราจะได้เห็นทีมใดทีมหนึ่งหรือทั้งสองทีมนี้ลงแข่งรายการนี้ ซึ่งสถิติดังกล่าวเป็นตัวบ่งชี้ได้ว่า ณ เวลานี้สองทีมนี้คือ ทีมที่ดีที่สุดและมีมาตฐานสูงกว่าทีมอื่นๆบนเกาะอังกฤษอย่างเห็นได้ชัด
ถึงแม้จะเป็นรายการการกุศลและเหมือนจะไม่ได้มีเกียติยศอะไรมาประดับสโมสรจาการครองถาดใบนี้แต่ถ้ามองให้ลึกสำหรับเกมวันนี้ถือเป็นเกมที่มีความสำคัญกับทั้งสองทีมเป็นอย่างยิ่ง กล่าวคือชั่วโมงนี้มีแต่สองทีมนี้เท่านั้นที่ถือได้ว่าแย่งชิงความยิ่งใหญ่กันอยู่เพราะฉะนั้นการเอาชนะคู่ต่อสู้สำคัญได้เหมือนเป็นการสร้างพลัง มีผลต่อสภาพจิตใจ และความหึกเหิมของนักเตะ กุนซือ และแฟนบอล ที่กำลังจะเจอกับภารกิจอันยิ่งใหญ่และหนักอึ้งอีก 8 เดือนข้างหน้า เพราะการออกสตาร์ทดี ก็ทำให้เดินทางสะดวกยิ่งขึ้น และอีกมุมหนึ่งก็เป็นการบั่นทอนกำลังใจของผู้แพ้

ดังนั้นเกมนี้ไม่ได้ใช่เกมชิงถาดการกุศลธรรมดา แต่มันอาจหมายถึง ศักดิ์ศรี กำลังใจ พลังที่จะได้มาจากการชนะ และผมก็เชื่อว่าสองทีมที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดชั่วโมงนี้บนเกาะเกาะอังกฤษคงไม่ยอมกันง่ายๆและคงสู้เต็มที่เพราะมันไม่ใช่เกมการกุศลอย่างที่คนทั่วไปมอง “แต่มันคือเกมชิงชนะเลิศในมุมมองของทั้งสองทีม”
“และตอนนี้ผมเฝ้าทนรอให้เวลานั้นมาถึงไม่ไหวแล้ว”
